รวยแค่ไหน สร้างทะเลน้ำจืดบนดิน!
คลังสมบัติ ‘สายเชีย’ จากติดลบ 10 ปี กลายเป็นเศรษฐีทะเล 500 ไร่
จากโฆษณๅชุดจน เครีย๑ กินเหล้ๅ ของสสส.นอกจากทำให้ เชีย สายเชีย วงศ์วิโรจน์ นักแสดงตัวประกอบหน้านิ่งได้รับรางวัลสิงโตคานส์
แล้วยังทำให้เขาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น ไม่เพียงผลงานโฆษณๅเท่านั้นเพราะเขายังได้แสดงหนังต่างประเทศอีกหลายเรื่องทั้งTomb Raider ภาค 2
,Batman Begins , Rambo 4 , Rescue Dawn , Only God Forgives หรือหนังจีนที่ดังเป็นพลุแตก Lost in Thailand
นั่นหมายถึงการมีโอกาสได้ร่วมงานกับดาราฮอลลีวูดหลายๆ คนโดยเฉพาะแองเจลีนา โจลีที่เคยทานอาหารไทยฝีมือของเขามาแล้ว
เชียเป็นลูกชาวนาและใช้ชีวิตอยู่ในท้องทุ่งมาตั้งแต่จำความได้ ความยากแค้นในวัยเด็กทำให้เขาเรียนหนังสือไม่จบม.3
เพราะทางบ้านขาดแคลนทุนทรัพย์ ข้าวอาหารก็ขาดแคลนต้องหาปลาไปแลก รับจ้างทำงานทุกอย่างให้ได้เงินทั้งดายหญ้า ดำนา
เรียกได้ว่าสู้และดิ้นรนมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ เรื่องทำงานแลกเงินอาจเป็นความสนุกสำหรับเด็กผู้ชายที่ชอบชีวิตโลดโผน
แต่เมื่อโตเป็นวัยรุ่นสักอายุ 17 เชียเริ่มนั่งมองชีวิตตัวเองและตั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่มีบ้าน ? เป็นเหตุผลให้เขาและครอบครัวตัดสินใจย้ายจากเชียงรายไปอยู่กำแพงเพชรหวังเริ่มต้นชีวิตใหม่
ปัจจุบันเขายังคงรับงานนักแสดงทั้งโฆษณๅ ละคร ภาพยนตร์แถมยังเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของลูกๆ ทั้ง 3 คน
และมีธุsกิจแบ่งที่ดินให้เช่ๅรวม 600 ไร่ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้เชียบอกว่าเป็นเพราะคำว่าสู้
แต่ถ้าเห็นหน้าของเขาหลายคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเขาปรากฏตัวในโฆษณๅเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อโฆษณๅของเมืองไทยเลยทีเดียว
ซึ่งการปรากฏตัวในแต่ละครั้งเขาก็มาในคาแรคเตอร์ที่เกินคาดเดา บางครั้งก็มาในลุคของ ยุง เหา มด แมลงสาบ แต่ที่ทำให้ผู้คนจดจำเขาได้อย่างแม่นยำ
คือ โฆษณๅของ สสส. จน เครีย๑ กิน ที่พัฒนาชีวิตจากหนุ่มก่อสร้างสู่นักธุsกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากคุณพ่อ-คุณแม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ
เพื่อหาที่ทำกิน แม้ครอบครัวจะยึดอาชีพทำไร่ทำนา แต่กลับไม่ค่อยมีข้าวกิน ต้องกินข้าว ผสมเผือก ผสมมัน เพื่อให้ได้จำนวนเยอะๆ กัน
