ขุมทรัพย์แท้จริง ‘น้ำ รพีภัทร’ เป็นถึงเขยเศรษฐีภาคเหนือ
น้ำ รพีภัทร เรียกว่าเป็นหนุ่มนักแสดงที่หาความพอดีในชีวิตได้เป็นอย่างดี ด้วยจากที่ตัวเองเกิดมาเป็นเด็กที่อาศัยในต่างจังหวัด ชีวิตเขาเริ่มจาก
เด็กบ้านทุ่ง เขาก็เลยกลับมาใช้ชีวิตชิลๆ แบบบ้านทุ่ง แต่ก็ยังรับงานในวงการบันเทิงเหมือนเดิม เรียกว่าวางชีวิตตัวเองได้สมดุลมากๆ นอกจาก
การรับงานในวงการบันเทิงแล้ว น้ำ รพีภัทร ก็ได้ทำตามความฝันด้วยการย้ายครอบครัวกลับมาอยู่บ้านเกิด เริ่มจากทำฟาร์มไก่ที่เป็นความรักความ
ชอบเมื่อเยาว์วัย โดยปัจจุบันเขาขยายฟาร์มตัวเองทั้ง ไก่ เลี้ยงควาย เลี้ยงม้า เลี้ยงปลา และใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องห่วงอะไร รวมถึงก็ยังรับงาน
ในวงการบันเทิงไปด้วย แต่แค่รับอย่างพอดี ไม่หักโหม ให้ชีวิตมีความสมดุล โดยเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เขาพาครอบครัวมาใช้ชีวิตแบบชิลๆ สบายๆ
แบบนี้ก็คือตั้งใจอยากให้ลูกๆ เติบโตในแบบ ‘เด็กบ้านทุ่ง’ เหมือนตัวเขาเองและนอกจากนั้นเขาก็ยังทำช่องทางการติดตามให้กับแฟนๆ ของเขา
ผ่านสื่อโซเชียลที่อัปเตตการใช้ชีวิตง่ายๆ หลีกหนีจากชีวิตวุ่นวายในเมืองผ่านทาง เฟจเฟซบุ๊ก และ ยูทูปของเขา ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 396,000 ซับ
และมีผู้เข้าชมช่องมากกว่า 20 ล.ครั้งเลยด้วย ส่วนฝ่ายภรรยานั้น เจ้าตัวนั้นมีดีกรีเป็นถึงนางงามเลยทีเดียว และยังมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมี ฐานะ
มีมากๆเลยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นคุณหนูเลยก็ว่าได้แถมยังเป็นครอบครัวที่เป็นที่รู้จักอยู่ ในวงกว้างอีกด้วย ซึ่งบ้านของเธอมีกิจการใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่
แต่หลังจากที่ตัดสินใจ สร้างครอบครัวกับพระเอกหนุ่ม เจ้าตัวก็ได้ย้ายมาอยู่บ้านนากับสามีและดูแลลูกๆทุกคนเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ
แต่ต้องบอกเลยว่าเธอมีความสุขกับชีวิตเรียบง่ายตอนนี้มากๆ แต่ล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก “มินตรา” ภรรยา “น้ำ รพีภัทร” แจงแล้ว
หลังภาพสามีดื่มหนักกอดสาวในงานแต่ง มินตรา ภรรยาของ น้ำ รพีภัทร เผยว่า เธออยู่ในงานและนั่งโต๊ะเดียวกับพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่พี่น้ำแยกไปนั่งโต๊ะ
รวมกับเพื่อนๆ ผู้ชาย จนถึงช่วงพิธีเจ้าสาวโยนดอกไม้ จากคลิปจะเห็นเหมือนพี่น้ำเข้าไปกอดสาวชุดน้ำเงิน จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นการเข้าไปแย่งรับดอกไม้กัน
ทำให้เกิดภาพในลักษณะแบบนั้น ซึ่งน้องเป็นสาวประเภทสอง ไม่ได้โกรธว่าอะไรเพราะสนิทและรู้จักกัน และยังมีคลิปที่เจ้าตัวขึ้นไปอวยพรบ่าว-สาวบนเวทีและได้พูดติด
ตลกว่า “โทษทีใช้ใบ..มา” และยังได้ทิ้งท้ายว่า “ถ้าอยากใช้ใบ… ก็ไปหาพี่ที่โต๊ะ” ประโยคดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากถูกวิจารณ์อย่างหลากหลายความคิดเห็น