ขุมทรัพย์หมื่นล. ‘ไฮโซเพชร’ อดีตสามี ‘พิ้งกี้ สาวิกา’ หลังถอดกำไลได้อิสระคืน
เรียกได้ว่า กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ตพูดถึงกันสนั่น กรณีที่นักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช จำ เลยที่ 7 ค ดีดัง
ที่ล่าสุดได้รับอนุญาตให้ปลดกำไลอิเอ้ม ได้ เพื่อความสะดวกในการรับงานแสดง เพื่อหารๅยได้ โดยโลกออนไลน์ร่วมแสดงความคิด
เห็นกันมากมาย อาทิเช่น สรยุทธ์ก็ใส่ยังเห็นมาทำงานได้ นี่คือทำผิดก็ต้องใส่ป่ะ นักโทษกๅรเมืองยังใส่ นี่ค ดีร้ๅยแรงนะฉ้oโกJเนี่ย ,
คนธรรมดามันจะเอาออกง่ายขนาดนี้มั้ย(อันนี้พูดถึงความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย) , มันไม่ควรมีสองมาตรฐานหรือเปล่าครับ ด้วยความ
เคารพความเป็นกลาง ความเสมอภาค และเท่าเทียม คืออ่ะไร ดารามันก็คนเหมือนกัน เป็นต้น ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในวันที่สาวพิ้งกี้ ไร้อิสระ
ซึ่งประเด็นดังกล่าวสร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ หลายคนต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่มุม โดยโลกโซเชียลได้แชร์บท
สัมภาษณ์เมื่อปี 2560 ของ “ไฮโซเพชร อิทธิ” อดีตสามีของ พิ้งกี้ ที่เคยออกมาเปิดใจหลังตัดสินใจแยกทางกันพร้อมพูดเตือนอดีตภรรยาไว้ว่า
“พูดตรงๆนะ ผมสงสารน้องเขาเพราะว่าตอนจบผมมองไปไกลๆ น้องเขาจะไม่เหลืออะไรเลย คนรอบๆ เขาเอาไปหมด เพราะผมไม่สามารถจะช่วย
อะไรเขาได้ เวลาผมจะระลึกถึงผู้หญิงคนนี้ มันไม่ได้มีความรักนะ มันมีแต่ความเป็นห่วง แต่มือมันล้วงไม่ถึง เป็นห่วงในที่นี้ไม่ใช่จะเอาตังค์ไปให้นะ
ในมุมของคนอาย 40 กว่าปี ถ้าดำเนินชีวิตแบบนี้ตอนจบจะเหลืออะไร” เรียกไได้ว่าเป็นคำพูดสุดท้ายด้วยความหวังดีของอดีตสามี ทั้งนี้ในวันนี้เราจะพาทุกคน
รู้จักไฮโซเพชรมากขึ้นที่ต้องบอกเลยว่า สำหรับ ไฮโซเพชร มหาเศรษฐีหมื่นล. เรียกว่าร่ำรวยมหาศาล เป็นนักกิจการอสังหาริมทรัพย์ ทายาทรุ่นที่ 3
เจ้าของที่ดินรายใหญ่ของเมืองพัทยา นอกจากนั้นยังเป็นประธานกรรมการ บริษัท เพชร ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ทำกิจการอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา
และที่อื่นๆ เป็นเจ้าของคอนโดหรูและหมู่บ้านหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีกิจการเกี่ยวกับวงการบันเทิง ด้วยการเปิดบริษัทพัทยาฟิล์ม สร้างภาพยนตร์ด้วย
ทั้งนี้ ก่อนแต่งงานกับพิ้งกี้ก็เคยเป็นข่าวกับดาราสาวชื่อดังมากมาย จัดเป็นหนุ่มสายเปย์ระดับตัวพ่อก็ว่าได้ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา นอกจากนี้เขา ยังเคยเผยถึงฟางเส้น
สุดท้ายในชีวิตแต่งงานมา 3 ปีกับสาวพิ้งกี้ ว่า “อย่าใช้คำว่าปรับได้มั้ย ใช้คำว่าผมนั่งดูการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้วกัน ผมให้
ตังค์บ้านเขาเดือนละเท่าไร คนบ้านเขาก็น่าจะรู้ ตั้งแต่ต้นปี 59 มีข่าวว่าให้เดือนละ 5 หมื่น มีสัมภาษณ์แม่ ผมก็ไม่เข้าใจให้ 5 เท่า 7 เท่า 10 เท่า ก็พูดได้
แต่ทำไมต้องพูดให้คลุมเครือทำให้บ้านเขาดูไม่พอกิน พูดตรงๆ นะ มันไม่ใช่หน้าที่ผม แต่ผมก็ทำให้หลายเท่า เพราะผมมองว่ามันคือครอบครัว จะมาพูดให้คนเกลีeดผมทำไม”